ความรู้ครีมบัวหิมะ กับ บัวหิมะที่เค้าเลี้ยงกัน


"จง หัว ฟู เป่า" หรือที่รู้จักในประเทศไทยเรา คือ "บัวหิมะ" หรือไม่ เพราะ "จง หัว ฟู เป่า" หรือ "บัวหิมะ"เป็นผลิตภัณฑ์ นำเข้าจากประเทศจีน โรงงานอยู่ที่ปักกิ่ง เป็นครีม ที่ทำให้ผิวพรรณ นวลเนียน เปล่งปลั่ง สดใส ดูอ่อนกว่าวัย ใช้ในลักษณะบำรุง ดูแล และช่วยปรับสภาพผิว มีส่วนผสมต่างๆหลายตัว ที่ สกัดจากธรรม ชาติ และบางตัวมีราคาค่อนข้างแพง เช่น ผงไข่มุก โสม นิ่วในถุงน้ำดีวัว ชะมดเช็ด ว่านหางจระเข้ การบูร วาสลีน โดยเฉพาะโสม ต้องเป็นโสมป่า ซึ่งผงไข่มุกจะมีสรรพคุณ สามารถป้องกันแสงแดด โสม ช่วยในการหมุนเวียนของเลือดในบริเวณที่ทา ทำให้สามารถคืนสภาพผิวได้เร็ว และ ไม่มีสาร สเตียรอยด์
แต่ผมเข้าใจว่าในความหมายของคนถาม หมายถึงบัวหิมะ ซึ่งเป็นพืช ชนิดหนึ่ง ที่มีความหมายเป็น 2 แบบ คือ

1. หมายถึง ต้นพืช บัวหิมะจากประเทศจีน (Snow lotus = Saussurea involucrata) เป็นต้นพืช หมายถึง บัวหิมะพันปี หรือ บัวหิมะหมื่นปี จะงอกงามอยู่ในบริเวณ ภูเขาสูง ที่มีอากาศเย็นจัด หรือ บริเวณที่ราบสูง โขดหินที่มีหิมะปกคลุมตลอดปี
(ถ้าดูหนังจีน คงจำได้ว่าบางเรื่อง เมื่อถูกสารพิษ หรือโดนฤทธิ์กำลังภายใน จะต้องให้ไปหาบัวหิมะมาเป็นยารักษา ซึ่งจะต้องดั้นด้นไปหาด้วยความยากลำบาก) ดอกจะออกขาวโพลน เหมือนหิมะ เช่น บริเวณ เถียนชาน ที่ราบสูง ซินเจียง ( Tianshan of Xinjiang plateau )ซึ่งจะเรียกว่า บัวหิมะซินเจียง(Xinjiang Snow Lotus, with another name of"Xuehehua")
และจะกระจาย เติบโตบริเวณ Tianshan Mountains, Kunlun Mountains and Altai Mountains บัวหิมะของประเทศจีน นี้ ส่วนมากจะเติบโตบริเวณที่มีระดับนำทะเล สูงตั้งแต่ 3000 - 4000 เมตร แม้ในฤดูร้อนภูเขาก็ยังมีหิมะปกคลุม ซึ่ง ในประเทศจีน จะมีการนำ ดอกบัวหิมะนี้ (มีรสขมเล็กน้อย) มาทำเป็นยาด้านต่าง เช่น ป้องกันอาการไข้ ขับสารพิษ ลดอาการเจ็บปวด จากสาเหตุการเป็นโรครูมาตอยด์ บำรุงเลือด ฟื้นฟูสภาพไต และ เป็นยาอายุวัฒนะ ปรับความสมดุลย์ หยิน - หยาง ของร่างกาย โดยมีผลิตภัณฑ์ ทั้งที่ เป็นแบบบริสุทธิ์ 100 เปอร์เซนต์ หรือนำไปผสมกับตัวยาอื่นๆ ส่งขายทั่วโลก มากกว่าปีละ 5 ล้านดอก ปัจจุบันรัฐบาลจีนเข้าไปควบคุม การเก็บดอกบัวหิมะ
2. หมายถึง ต้นพืช ขนาดเล็กตระกูล fungi ของธิเบต (Snow lotus = Xue Lian ) มีลักษณะขาวๆ เหมือนเห็ดหูหนูขาว แต่เล็กจิ๋วมาก พระธิเบตจากเทือกเขา เถียน เป็นคนเผยแพร่ และมีศาสตรดาจารย์นายแพทย์ชาวโปแลนด์ นำไปเผยแพร่ในยุโรป เนื่องจากสามารถรักษามะเร็งได้จริง ดังนั้นจากคำถาม ของผู้ถามน่าจะหมายถึงบัวหิมะของธิเบตมากกว่า ซึ่งมีรายละเอียด คุณสมบัติ และการเลี้ยง ดังนี้
บัวหิมะธิเบต
1.ช่วยให้ระบบต่างๆของร่างกาย สร้างภูมิคุ้มกันชีวิตที่ดีขึ้น
2.สามารถป้องกันโรคหัวใจ และระบบการทำงานของหัวใจที่
บกพร่อง
3.ช่วยให้การทำงานของตับและม้ามดีขึ้น
4.ป้องกันโรคนิ่วในถุงน้ำดี และช่วยสลายนิ่วในถุงน้ำดี
5.ช่วยให้ระบบการขับถ่าย กระเพาะอาหาร และลำไส้ดีขึ้น
6.สร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ขจัดเชื้อโรคที่จะเข้าสู่ร่างกาย
7.ช่วยลดความดันโลหิต
8.ระงับการแพร่กระจายของโรคมะเร็ง
9.ช่วยให้การทำงานของไตและกระเพาะปัสสาวะดีขึ้น
10.ทำให้ร่างกายสดชื่น ไม่อ่อนเพลีย ลดความเครียดได้
บัวหิมะนี้ ประกอบด้วยสารอาหารที่ร่างกายต้องการหลายชนิด ศาสตราจารย์นายแพทย์ชาวโปแลนด์ขณะไปปฏิบัติงานที่อินเดียและธิเบต ได้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ท่านนักบวชชาวธิเบตได้ใช้บัวหิมะรักษาให้ ประมาณ 1ปีครึ่ง อาการป่วยก็หาย ร่างกายแข็งแรงดังเดิม เขาจึงได้ขอบัวหิมะจากท่านนักบวช เพื่อนำไปเผยแพร่ ซึ่งนักบวชท่านก็ให้ แต่ขอร้องให้ปฏิบัติ 3 ข้อ ต่อไปนี้คือ
1.เลี้ยงบัวหิมะให้ดี จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรง
2.ห้ามจำหน่ายเด็ดขาด
3.ถ้าเลี้ยงแล้วเจริญเติบโตมีมากเกินความต้องการ โปรดแจกจ่ายให้
ญาติและมิตรสหาย
วิธีเลี้ยงบัวหิมะ
ใช้นมสดรสจืด 1 กล่อง ประมาณ 250 c.c (8 1/2 ออนซ์) ไม่ต้องแช่ตู้เย็น
1. แช่บัวหิมะไว้ในนมสด 250 c.c นานประมาณ 24 ชั่วโมง บัว
หิมะจะเปลี่ยนนมสดให้เป็นโยเกิร์ต
2. ใช้กระชอนกรองน้ำนมนั้นมาดื่ม (ควรดื่มทันที ไม่ควรตั้งทิ้งไว้
นาน)
3. ดื่มก่อนนอนขณะท้องว่าง โดย ไม่ดื่มรวมกับเครื่องดื่มชนิดอื่นๆ
ให้ดื่มติดต่อกันนาน 20 วัน แล้วให้หยุดพัก 10 วัน
4. ล้างบัวหิมะด้วยน้ำสะอาดเบาๆ จนสะอาด (หากจำเป็นอาจใช้มือ
สัมผัสเบาๆได้) แล้วเทคืนสู่ภาชนะเดิม แช่ด้วยนมสดใหม่ 250
c.c ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง
5. ระหว่างพัก 10 วัน ให้ล้างบัวหิมะทุกคืน เติมนมสดรสจืดฯ ทุก
ครั้ง (ปฏิบัติเช่นเดียวกับข้อ 4.
6. ให้เลี้ยงบัวหิมะในภาชนะแก้ว หรือพลาสติกเท่านั้น ห้ามใช้
ภาชนะที่เป็นโลหะทุกชนิด เก็บในห้องที่มีอุณหภูมิปกติ ห้ามเก็บ
ในอุณหภูมิที่เย็นจัด เพราะนมจะมีรสเปรี้ยวมาก
7. บัวหิมะจะเพิ่มจำนวนขึ้นเป็น 2 เท่า ภายในเวลา 18 วัน
(ประมาณที่พอเหมาะคือ สองช้อนครึ่ง)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น